โครงการการใช้ประโยขน์ไม้โตเร็วเพื่อเป็นพลังงานทดแทนในการ ผลิตกระแสไฟฟ้าและแก๊สหุงต้ม

รายละเอียด: 

โครงการการใช้ประโยชน์ไม้โตเร็วเพื่อเป็นพลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้าและแก๊สหุงต้มเป็นโครงการต่อเนื่อง ปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์หลักคือ จัดตั้งเครือข่ายชุมชนไม้โตเร็ว และพัฒนาระบบการบริหารจัดการไม้โตเร็วในชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการได้ทาการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไม้เศรษฐกิจ ตาบลหนองพอก โดยมีความร่วมมือกับสถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด มีสมาชิกทั้งหมด 37 คน ได้รับการสนับสนุนกล้าไม้ยูคาลิปตัสพันธุ์จานวน 17,129 กล้า และความรู้เรื่องการปลูกและการจัดการจากโครงการวิจัย โดยกลุ่มฯ ได้จัดการจาหน่ายกล้าไม้ให้สมาชิกในราคาต้นละ 1 บาท เพื่อนาเงินที่ได้มาเป็นกองทุนในการดาเนินงานบริหารงานของกลุ่มฯ และขยายผลสู่ธุรกิจ ปัจจุบันกลุ่มฯ เก็บเงินจากการขายกล้าได้ 15,000 บาท
เกษตรกรสมาชิกกลุ่มได้นากล้าไม้ที่ได้ไปปลูกบนคันนาเป็นระยะทางรวม 12.8 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นผลผลิตเนื้อไม้เมื่ออายุ 3 ปีได้ 1,128.4 ตันสด ผลผลิตดังกล่าวสามารถทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ 2,231,975 kcal และสามารถป้อนเข้าโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 88 kW การใช้ประโยชน์ไม้ ยูคาลิปตัสนอกจากใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลแล้ว อาจแบ่งส่วนโคนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว ขึ้นไปใช้ในอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษซึ่งมีความต้องการสูงและได้ราคาขายดีกว่าขายเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งในพื้นที่เครือข่ายตาบลหนองพอกมีแหล่งรับซื้อไม้ 3 จุด ได้แก่ ลานของสหกรณ์การเกษตรหนองพอก ลานของต๋องการยาง และลานของโรงสีบุญหลาย ทาให้เกษตรกรมีความสนใจที่จะปลูกไม้โตเร็วเนื่องจากมีตลาดรับซื้อ และรับไม่จากัดจานวน
การพัฒนาระบบการบริหารจัดการไม้โตเร็วในชุมชนให้มีประสิทธิภาพ มีกรณีศึกษาในพื้นที่ อบต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้าเขียว จ.นครราชสีมา โดยทาการศึกษาการเติบโตและความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ ของการปลูกยูคาลิปตัสสองรูปแบบที่พบมากที่สุดในพื้นที่ ได้แก่ การปลูกไม้ยูคาลิปตัสแบบสวนป่าเชิงเดี่ยว และการปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา โดยพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ความสูงเพียงอก มีความสัมพันธ์กับน้าหนักสดของลาต้น น้าหนักสดส่วนที่เป็นสินค้าได้ ปริมาตรลาต้นทั้งหมด และปริมาตรที่เป็นสินค้าได้ นอกจากนี้ยังประเมินผลตอบแทนทางการเงินของการปลูกยูคาลิปตัสทั้งสองรูปแบบ และเพิ่มรูปแบบการปลูกยูคาลิปตัสควบมันสาปะหลัง พบว่า อัตราส่วนผลได้ต่อต้นทุน (B/C) ที่อัตราดอกเบี้ย 5 % ของการปลูกยูคาลิปตัสควบมันสาปะหลัง การปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา และการปลูกยูคาลิปตัสแบบสวนป่าเชิงเดี่ยว เท่ากับ 1.70 1.45 และ 1.76 ตามลาดับ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ที่อัตราดอกเบี้ย 5 % มีค่า NPV เท่ากับ 7,138.61 8,716.59 และ 5,157.00 บาทต่อไร่ ตามลาดับ และอัตราผลตอบแทนของโครงการ (IRR) พบว่า การปลูกยูคาลิปตัสควบมันสาปะหลัง การปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา และการปลูกยูคาลิปตัสแบบสวนป่าเชิงเดี่ยว มีค่า IRR เท่ากับ 37.74 84.73 และ 79.30 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ
นอกจากนี้ยังจัดทาฐานข้อมูลไม้ยูคาลิปตัสเพื่อการประเมินผลผลิตไม้ยูคาลิปตัสในตาบลวังน้าเขียว ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดจัดอยู่ในชั้นสมรรถนะที่ 2 เป็นชั้นที่มีความเหมาะสมปานกลางต่อการปลูกยูคาลิปตัส โดยสามารถประเมินน้าหนักสดทั้งหมดของลาต้นของการปลูกในรูปแบบแปลงสวนป่าเชิงเดี่ยวและการปลูกบนคันนา เท่ากับ 3,142.97 และ 517.04 ตัน ตามลาดับ นอกจากนี้ยังจัดทาแปลงทดสอบและรวบรวมพันธุ์ ยูคาลิปตัสเพื่อปรับปรุงเป็นแปลงคัดเลือกต้นไม้ที่อัตราการเติบโตที่ดีเพื่อนาไปขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดหรือกิ่งพันธุ์ต่อไป

ปีดำเนินโครงการ: 
หน่วยงานที่ดำเนินโครงการ: 
เครือข่าย/หน่ายงานรับผิดชอบโครงการ: 

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ที่อยู่: 
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ 196 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ 0 2561 2445 โทรสาร 0 2940 5744 , 0 2579 0455