Solar power shines brighter in the PH as it accelerates decarbonisation

Solar power shines brighter in the PH as it accelerates decarbonisation

ฟิลิปปินส์ให้ความสนใจด้านไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศกำลังเร่งดำเนินการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงาน ท่ามกลางความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นและโครงการที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว   จากสถิติในฐานข้อมูลของ Fitch Solutions แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าและบางโครงการมีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (เปรียบเทียบกับข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคม 2564)

การเติบโตนี้ได้รับการขับเคลื่อนจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล เช่น การเปิดประมูลโรงไฟฟ้า กำลังการผลิต ทั้งหมด 2 กิกะวัตต์ (GW) ในเดือนมกราคม 2565 ประกอบด้วย พลังน้ำ 130 เมกะวัตต์ (MW) พลังงานแสงอาทิตย์ 1.26 GW พลังงานลม 380 MW และพลังงานชีวมวล 230 MW ซึ่งโครงการเหล่านี้จะตั้งอยู่บริเวณเกาะลูซอน (Luzon) วิซายาส (Visayas) และมินดาเนา (Mindanao) นโยบายดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนจากการใช้มาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้า (feed-in-tariff) ที่มีอยู่เดิม

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายด้านพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญ 2 นโยบาย ได้แก่  Renewable Portfolio Standard (การกำหนดสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน) และ Green Energy Option (การให้ทางเลือกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในการเลือกใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ ) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของตลาด

เป้าหมายการลดคาร์บอน

กระทรวงฯ ได้กำหนดเป้าหมายใหม่สำหรับพลังงานหมุนเวียนภายใต้โครงการพลังงานทดแทนแห่งชาติ (the National Renewable Energy Program) ซึ่งกำหนดให้แหล่งพลังงานสะอาดมีสัดส่วน 35% ของแหล่งพลังงานทั้งหมดของประเทศภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50% ภายในปี ค.ศ. 2040 (พ.ศ. 2583)

รวมถึง (ร่าง) แผนพลังงานของฟิลิปปินส์ ปี 2040 (the Philippines Energy Plan 2040) มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นโดยมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเกือบ 10.2 GW ซึ่งสูงกว่าปริมาณเชื้อเพลิงหมุนเวียนประเภทอื่นๆ ที่วางแผนไว้ เช่น พลังงานลม (2.8 GW) พลังงานชีวมวล (343 MW) และพลังงานความร้อนใต้พิภพ (200 MW) รวมทั้งครอบคลุมถึงแผนสำหรับระบบจัดเก็บพลังงานโดยใช้แบตเตอรี่ ขนาด 500 MW ซึ่ง Fitch Solutions ได้คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ใช่พลังงานน้ำจะสูงถึง 10.2 GW ภายในปี 2031 (พ.ศ. 2574) และโดยส่วนมากเป็นโครงการที่ใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้เปิดตัวโครงการราคาพลังงานสีเขียว (Green Energy Pricing Program) ที่พยายามกำหนดราคาเพดานสำหรับพลังงานหมุนเวียนซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตซื้อ-ขายพลังงานได้อย่างมีเสถียรภาพ ในแง่ของศักยภาพการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนและความพยายามที่จะเลิกใช้ถ่านหิน Fitch Solutions มองว่า การพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินจะลดลงแม้ว่าถ่านหินจะยังเป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศอยู่ก็ตาม ซึ่งตามที่ฟิลิปปินส์ได้เข้าร่วม“กลไกการเปลี่ยนถ่ายพลังงาน (Energy Transition Mechanism)” ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) รัฐบาลได้พยายามยกเลิกการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่ก่อนหมดอายุการใช้งาน

ที่มา: Asian Power Issue No. 105 P. 19, 30 September 2022

 

promote: