ญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนเป็น 20% ภายในปี 2020

ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของญี่ปุ่นกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในยามที่ผู้คนยังเข็ดขยาดกับหายนะที่เกิดกับโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์กันอยู่ บริษัท juwi Shizen Energy ได้เริ่มโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แห่งที่สามในญี่ปุ่น ในเมืองโอสุ บนเกาะคิวชู โดยบริษัทร่วมทุนระหว่าง juwi group ของเยอรมัน และ Shizen Energy  ของญี่ปุ่นได้ร่วมกันเปิดโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 1.1 megawatt (MW) โดยในแต่ละปีแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 4,480 แผงจะทำการผลิตไฟฟ้าโดยกระบวนการที่ไม่เพิ่มปัญหาภาวะโลกร้อนเข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้า 1,375,000  kilowatt hours (kWh) ซึ่งเท่ากับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประชาชนมากกว่า 380 ครัวเรือน ซึ่งโรงไฟฟ้าของ juwi Shizen Energy แห่งนี้นับเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งที่สามบนเกาะคิวชู โครงการแรกของบริษัทซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1 MW ได้ผลิตทำการผลิตพลังงานสะอาดเพื่อหล่อเลี้ยงประชาชนมากกว่า 300 ครัวเรือนแล้ว

นอกจากนี้ juwi Shizen Energy ยังได้ก่อสร้างระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ photovoltaic (PV) บนหลังคาอีกด้วย ที่คุมาโมโตะ บริษัทได้ต่อเชื่อมไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงผลิตไฟฟ้า PV บนหลังคา “Bear2” เข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้า โดยประกอบไปด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 4,088 แผง และบริษัทระบุว่าใช้เวลาติดตั้งเพียงแค่ 4 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งระบบนี้มีกำลังการผลิตรวม 1 MW และสามาถผลิตพลังงานสะอาดได้ 1 ล้าน kilowatt hours (kWh) ต่อปี เพียงพอสำหรับการหล่อเลี้ยงประชาชนมากกว่า 300 ครัวเรือน

โรงผลิตไฟฟ้า PV นี้สร้างขึ้นเพื่อนักลงทุนกลุ่มเดียวกับที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โครงการแรกของ juwi Shizen  “ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และทีมงานชาวญี่ปุ่นของเราประสบความสำเร็จในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งทางการ เจ้าของที่ดิน และนักลงทุน”  Amiram Roth-Deblon ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของ juwi และผู้อำนวยการของ juwi Shizen Energy

พลังงานหมุนเวียนกำลังเป็นที่สนใจของทุกคน

                ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงของการเร่งขยายภาคของการผลิตพลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนเป็น 20% ภายในปี 2020 โดยในปัจจุบันสัดส่วนของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์ ชีวมวล และพลังงานความร้อนใต้พิภพคิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำเพียงแค่ 1% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศของญี่ปุ่นเท่านั้น  ดังนั้นประเทศญี่ปุ่นจึงได้ประกาศอัตรา feed-in-tariff ที่สูงที่สุดในโลกสำหรับการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสงอาทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าญี่ปุ่นเป็นเพียงหนึ่งในห้าประเทศในโลกที่กำลังการผลิต  PV สะสมสูงถึง 10 gigawatts โดยตลาด PV ในญี่ปุ่นมีกำลังการผลิตทะลุ 10 GW ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ (2556) และเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 10.5 GW

                ในขณะเดียวกัน JAG Energy Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Japan Asia Group ก็ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด 13 MW บนพื้นที่ขนาด 14.3 เฮคตาร์ ในคานากาว่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความริเริ่ม Smart Energy Initiative ของจังหวัดคานากาว่า นอกจากนี้ที่โอซาก้า SB Energy ก็กำลังก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ SoftBank Izumiotsu  ขนาด 19.6 MW อยู่เช่นกัน

                โดยจะเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง Kyocera Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Kyocera Solar และ Mitsui & Co. ซึ่งจะทำการก่อสร้างอยู่บนที่ดินของรัฐบาลขนาดเกือบ 25 เฮคตาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ของ Kyocera ประมาณ 80,000 แผง ซึ่งคาดว่าในแต่ละปีจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ ประมาณ 20,680 MWh